วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

วิธีการสั่งซื้อแหนแดง


สั้งซื้อที่ลิ้งค์นี้เลย ผ่านช้อปปี้
https://s.shopee.co.th/9pUrtMdlJk
ดังนั้น รับรองได้ว่าลูกค้าจะได้แต่ของดีๆที่ส่งมอบให้ครับผม



   จัดส่งทุกวัน

ไม่จำกัดขั้นต่ำในการสั่งซื้อนะครับ สั่งกี่ชุดก็ส่งถึงที่ครับ





       





วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

รีวิวจากลูกค้า

       แหนแดง azolla  microphylla ของผม ผมดูแลจนถึงมือลูกค้า                  เสียหายผมดูแลส่งใหม่ฟรี กำรี้กำไร คือ ความสุขที่ได้ทำ              ตัวเงินอาจจะไม่มาก แต่ดีต่อใจที่ได้เผีื่อแผ่ ส่งมอบสิ่งดีๆ
ให้แก่สังคมที่เป็นเกษตรปลอดสารพิษ ปลอดภัย ขายแหนแดง

















ขายแหนแดง ในทุกๆวัน จึงเป็นอะไรที่มีความสุข เพราะสิ่งเล็กๆที่ส่งส่งมอบ คือ ประสบการณ์ในการนำคนอื่นเข้าสูวงการเกษตรอินทรีย์ ดังนัั้น การขายแหนแดง จึงทำให้เราได้เกิดการเรียนรู้อีกหลายด้าน หลายมิติที่เราจะนำมาพัฒนาฟาร์มของเราเอง แล้วถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนแห่งการเรียนรู้ต่อไป

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561

วิดีโอการใช้แหนแดง

การนำแหนแดงมาผสมกับอาหาร หรือทำเป็นอาหารเลี้ยงไก่ แบบ100 % หรือแบบลดต้นทุนค่าอาหารไก่ด้วยการใช้แหนแดงเป็นอาหารเสริมให้ไก่ไข่ เป็นอีกทางเลือกนึงของเกษตรกรที่แสวงหาแนวทางในการพัฒนาเชิงปศุสัตว์สู่การตลาด ที่สามารถเพิ่มผลลิตแต่ไม่เพิ่มต้นทุนการผลิต กำไรก็เห็นอยู่แค่เอื้อมๆ การผลิตแหนแดงก็ง่ายๆ ใครๆก็สามารถทำได้



รีวิวใช้แหนแดงในการเพิ่มผลผลิตในนาข้าว แหนแดงที่เลี้ยงขยายพันธุ์ในแปลงนาข้าว จะทำหน้าที่ปกคลุมดิน แล้วผิวน้ำไม่ให้แสงส่องถึง ดังนั้นวัชพืชทั้งหลายเมื่อขาดแสงก็จะชะงักการเจริญเติบโต และเมื่อแหนแดงคลุมเต็มพื้นที่ นั่นก็หมายความว่าเราไม่ต้องกำจัดหญ้าเลยก็ว่าได้ครับ 


แหนแดงพืชมหัศจรรย์ใช้ในทางการเกษตรและปศุสัตว์ มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ แหนแดง และการใช้ประโยชน์ เช่น การนำมาทำปุ๋ยพืสด เพิ่มปริมาณธาตุอาหารให้แก่ดิน ทำให้ดินมีชีวิต ร่วนซุยขึ้น  หากเราใช้แหนแดงเป็นอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย เป็ด ไก่ หรือปลา จะทำให้ปศุสัตว์ของเรามีโอกาสในการรับโปรตีนเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ดังนั้นก็จะมีการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายที่มากขึ้นด้วย
จะว่าไปแล้วแหนแดงก็เป็นอมตะ (555) เพราะเราสามารถเพิ่มปริมาณของแหนแดง แบบที่แทบจะไม่มีปัจจัยจำกัดเลยก็วาได้ ดั้งนั้นการที่มีแแหนแดงในครอบครองนั้นหมายความว่าเขาจะออกดอกเบี้ยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตอยู่ร่ำไป แบบที่ลงทุนครั้งเดียวสบายเลยครับ มีแหนแดงใช้ตลอด



การขยายพันธุ์แหนแดง


   แหนแดงเป็นพื้ชน้ำ เป็นเฟินน้ำ (water fern ) อีกพวกนึง ที่มีการสร้างสปอร์ในการขยายพันธุ์  แหนแดงเป็นพื้ชที่ชอบความชื้นสูง สามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่ปราศจาคสารเคมี เช่น พวกยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ขยายพันธุ์ได้ง่าย

ดร.ศิริลักษณ์ แก้วสุรลิขิต นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานวิจัยจุลินทรีย์ดิน กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา กองวิจัยพัฒนา
ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เล่าว่า แหนแดงที่ขึ้นอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติในบ้านเรา เป็นแหนแดงสายพันธุ์ อะซอลล่า พินนาต้า (Azolla pinnata) มีขนาดเล็กกว่าแหนแดงสายพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์
ในปัจจุบันประมาณ 10 เท่า ทำให้ขยายพันธุ์ได้ช้ากว่า

แล้วใช้แหนแดงพันะธุ์อะไรจึงจะดี
    สายพันธุ์แหนแดงที่มีศักยภาพในการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว คือ Azolla microphylla (อะโซลลา ไมโครฟิลลา) ซึ่งในเว็บของเราเพาะขยายพันธุ์สายพันธุ์นี้

ดังได้กล่าวมาแล้ว แหนแดงมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ ประมาณ 7 สายพันธุ์ แต่ที่เหมาะสำหรับประเทศไทยมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ
สายพันธุ์ อะซอลล่า พินาต้า (Azolla pinnata) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมในประเทศไทยกับสายพันธุ์ อะซอลล่าไมโครฟิลล่า (Azolla microphylla)
ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรนำเข้ามาเพื่อคัดพันธุ์

ดร.ศิริลักษณ์ เล่าว่า หลังจากที่เราคัดเลือกได้สายพันธุ์แหนแดงที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยแล้ว เราก็ได้ปรับปรุงพันธุ์โดยการฉายแสง
แล้วทำการคัดพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ขยายพันธุ์ได้รวดเร็วขึ้น มีความเหมาะสมสามารถทนอยู่ในสภาพแวดล้อมในบ้านเราได้ดี เมื่อเทียบคุณสมบัติ
กับแหนแดงสายพันธุ์ที่มีอยู่ในบ้านเราพบว่ามีคุณสมบัติที่ด้อยกว่า คือ ตรึงไนโตรเจนได้น้อยกว่า ขนาดของต้นเล็กกว่า ขยายพันธุ์ได้ช้ากว่า

กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาพันธุ์และขยายพันธุ์แหนแดงสายพันธุ์ไมโคฟิลล่า (microphylla) มาตั้งแต่ปี 2520 ได้มีการรักษาพันธุ์
มาเรื่อยๆ และได้เงียบหายไประยะหนึ่ง เมื่อประเทศไทยหันมาส่งเสริมเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ แหนแดงของกรมวิชาการเกษตรจึงได้นำมา
พัฒนาการใช้ประโยชน์เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์อีกครั้งหนึ่งในปี 2540

คุณสมบัติของแหนแดงพันธุ์กรมวิชาการเกษตร

เนื่องจากกาบใบบนด้านหลังของแหนแดงมีโพรงใบและมีสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินอาศัยอยู่ในโพรงใบของแหนแดง เมื่อนำมาวิเคราะห์
พบว่ามีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบสูงถึง 4.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าพืชตระกูลถั่วที่มีอยู่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อหว่านแหนแดงไปในนา 1 ไร่
จะมีผลผลิตแหนแดง 3,000 กก. (3 ตัน) เทียบได้กับปุ๋ยยูเรีย 7-10 กก. ซึ่งเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของข้าว (ที่มา http://www.doa.go.th/pibai/pibai/n19/v_5-june/korkui.html)

วิฺธีการขยายพันธุ์แหนแดง
    1. ขยายพันธุ์แหนแดงลงบ่อ สระน้ำ หรือแหล่งน้ำที่สรา้งขึ้น 
         น้ำจะต้องสะอาด ปราศจากการปนเปื้อนสารเคมี  ควรมีการพรางแสงบ้างในช่วงแรก (สัปดาห์แรกที่ปล่อยลงแหล่งน้ำ) ใช้อัตราการปล่อยขยายพันธุ์ ถ้าเกษตรกรมีแม่พันธุ์ 10 กก. ก็จะเพียงพอสำหรับนา 1 ไร่ และใช้เวลารประมาณ 1 เดือน จึงจะเต็มพื้นที่ 1 ไร่




  2. ขยายพันธุ์แหนแดงด้วยกะละมัง หรือวงบ่อซีเมนต์
         ข้าพเจ้าพบว่า การลดต้นทุนที่ดี ในการเก็บสต๊อกแหนแดง คือ การใช้กะละมังพลาสติก ซึ่งข้าพเจ้าซื้อมาใบละ 20 บาทเท่านั้น
          กะละมังควรเป็นกะละมังเเก่า หรือ ผ่านการแช่น้ำ 7-10 วัน เพิ่อลดความเป็นพิษของพลาสติกต่อแหนแดง
           2.1 เติมปุ๋ยมูลสัตว์ เช่น มูลวัว 1 กำมือ







           2.2  เติมน้ำให้ระดับน้ำสูง 1 ฝ่ามือ หรือ15 เซนติเมตร
           2.3  ผสมปุ๋ยกับน้ำให้เข้ากัน
           2.4  ปล่อยแหนแดงลงไปราวๆ 1อุ้งมือพูนๆ
           2.5  เก็บในที่รำไร หรือพรางแสง สัก 3-5 วัน แล้วค่อยให้โดนแสง (ในกรณีที่สั่งจากไปรษณีย์) แต่ถ้าย้ายมาจากกะละมังเก่า หรือสต๊อก ก็ไม่จำเป็นต้องพรางแสง

           ข้อควรระวัง

                         น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำคลอง   หรือน้ำที่ไม่มีคลอรีน 
       

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สายพันธุ์ของแหนแดง

แหนแดงบนโลกของเรา มีทั้งหมด 7 สายพันธุ์หลัก ได้แก่
1. Azolla caroliniana Willd.



ที่มาของภาพ http://plantsrescue.com/wp-content/uploads/2013/06/Azolla-filiculoides.jpg




ที่มาของภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/d3/Starr_070906-8353_Azolla_filiculoides.jpg

3.Azolla japonica Franch. & Sav.



ที่มาของภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/a0/Azollafiliculoides.jpg

4.Azolla mexicana Presl


ที่มาของภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/db/Azolla_caroliniana_15-09-2012_02.JPG


5.Azolla microphylla Kaulf.
พันธุ์นี้ที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำให้ขยายพันธุ์


6.Azolla nilotica Decne. ex Mett.


ที่มาของภาพ http://www.asahi-net.or.jp/~it6i-wtnb/AzollaN/nilotica.JPG



7Azolla pinnata R.Br.


ประโยชน์ของแหนแดง



             แหนแดง ฺ(Azolla sp. ) เป็นพืชน้ำมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย เป็นทรัพยากรที่ใช้ไม่หมดสิ้น และแหนแดงมีโปรตีนสูง เน่าสลายปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย มีประโยชน์ดังต่อไปนี้


1. ใช้เป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าวทดแทนปุ๋ยเคมีไนโตรเจน โดยที่ในโพรงใบแหนแดง สามารถดึงเอาไนโตรเจนจากอากาศมาใช้สำหรับการเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ แหนแดงมีอัตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C : N) อยู่ระหว่าง 8 – 13 หลังถูกไถกลบ จะย่อยสลายและปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาในระยะเวลาที่สั้นประมาณ 8 สัปดาห์ ทำให้พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เร็วขึ้น ลดปริมาณวัชพืชในนาข้าว 

2.แหนแดงจะคลุมผิวน้ำป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องลงไปในน้ำ ทำให้วัชพืชในน้ำเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่

3.แหนแดงสามารถเลี้ยงได้ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแหนแดงในนาข้าวร่วมกับการเลี้ยงปลา พบว่า มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตข้าวใกล้เคียงกับการเลี้ยงปลาในนาข้าวโดยใช้ปุ๋ยเคมีตามปกติ และยังให้ผลผลิตสูงกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนเพียงอย่างเดียว

4.โครงสร้างของชีวมวลของแหนแดงมีหมู่คาร์บอกซิลและหมู่ฟอสเฟตจึงใช้เป็นตัวดูดซับโลหะหนักได้ โดยแหนแดงที่ทำปฏิกิริยากับแมกนีเซียมคลอไรด์จะดูดซับ ตะกั่ว แคดเมียม ทองแดงและสังกะสีในน้ำเสียได้ดี 

ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์แหนแดง



            แหนแดงเป็นเฟินน้ำ ขนาดเล็ก ลอยบนผิวน้ำ ต้นแก่ที่ได้รับแสงเต็มที่จะเป็นสีแดงคล้ำ ต้นอ่อนหรือได้รับแสงไม่เต็มที่จะเป็นสีเขียว แตกกิ่งแบบขนนก รากเป็นรากพิเศษ ยาวอยู่ทางด้านใต้ของลำต้น ทั้งต้นและกิ่งมีใบขนาดเล็กปกคลุม เรียงสลับซ้อนกัน ใบแต่ละใบแบ่งเป็น 2 ส่วนเท่าๆกัน ส่วนบนหนา สีเขียวหรือสีแดง ส่วนล่างบางอยู่ใต้น้ำ ไม่ค่อยมีสี ใบล่างสุดสร้าง สปอโรคาร์พ (sporocrap) 2-4 อัน ที่แกนของใบด้านใต้ใบ ภายในมีเมกะสปอร์และไมโครสปอร์

           ในใบของแหนแดงมีโพรงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่อาศัยของแอนาบีนา (Anabenae) ซึ่งเป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน แอนาบีนาได้รับสารอาหารจากแหนแดง ส่วนแหนแดงจะได้ไนโตรเจนจากการตรึงไนโตรเจนของแอนาบีนา

            องค์ประกอบที่สำคัญได้แก่โปรตีน ไขมัน และเซลลูโลส แร่ธาตุ แหนแดงต้องการธาตุอาหารหลักที่สำคัญได้แก่ ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุโพแทสเซียม และจุลธาตุที่สำคัญได้แก่ เหล็ก และ โมลิบดินัมซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเอนไซม์ไนโตรจิเนส ในการตรึงไนโตรเจน แหนแดงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่อุณหภูมิ 5 – 45องศาเซลเซียส เจริญได้ดีที่สุดที่อุณหภูมิ 20 – 30 องศาเซลเซียส แหนแดงจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดที่มีแสงประมาณ 50 – 70 เปอร์เซ็นต์ของแสงสว่าง พีเอชที่เหมาะสมที่แหนแดงเจริญเติบโตได้ดีที่สุดคือ 4.0 – 5.5 ความลึกของน้ำความลึกที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของแหนแดงคือประมาณ 10 เซนติเมตร
ที่มาของข้อมูล  https://th.wikipedia.org